วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

สมมติฐาน ( Hypothesis )



                ภิรมย์  กมลรัตนกุล  ( http://cai.md.chula.ac.th/lesson/research/re12.htm )  ได้รวบรวมและกล่าวถึงสมมติฐานไว้ว่า  การตั้งสมมติฐาน เป็นการคาดคะเน (predict) หรือการทายคำตอบของปัญหา อย่างมีเหตุผล จึงมักเขียนในลักษณะ การแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรอิสระ (independent variables) และตัวแปรตาม (dependent variable) เช่น การติดเฮโรอีนชนิดฉีด เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรค AIDS
                สมมติฐาน ทำหน้าที่เสมือน เป็นทิศทาง และแนวทาง ในการวิจัย จะช่วยเสนอแนะ แนวทางในการ เก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป
                สมมติฐานที่ตั้งขึ้น ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอไป แต่ถ้าทดสอบแล้ว ผลสรุปว่าเป็นความจริง ก็จะได้ความรู้ใหม่เกิดขึ้น (ดูภาพที่
1) อย่างไรก็ตาม งานวิจัยบางชนิด ไม่จำเป็นต้องมีสมมติฐาน เช่น การวิจัยขั้นสำรวจ (exploratory or formulative research) เป็นต้น
                http://www.nrru.ac.th/rdi/UserFiles/File/hypothesis.pdf  ได้รวบรวมและกล่าวถึงสมมติฐานไว้ว่า  การตั้งสมมติฐาน  เป็นข้อสันนิษฐานของผู้วิจัยเกี่ยวกับ คำตอบ ที่จะได้รับจากการดำเนินการวิจัย หรือการคาดเดาคำตอบล่วงหน้าสำหรับปัญหาวิจัยการคาดเดาคำตอบไว้อย่างมีเหตุผล โดยอาศัยทฤษฏี แนวคิด หรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้องเป็นฐานในการหาคำตอบล่วงหน้า  งานวิจัยอาจจะมีสมมติฐานหรือไม่ก็ได้ขึ้น อยู่กับระเบียบวิธีวิจัย
                http://www.watpon.com/Elearning/res5.htm  ได้รวบรวมและกล่าวถึงสมมติฐานไว้ว่า  สมมติฐาน (Hypothesis)  คือ คำตอบที่ผู้วิจัยคาดคะเนไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุมีผล เพื่อตอบความมุ่งหมายของงานวิจัยที่ได้วางไว้ เป็นข้อความที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ต้องเป็นประโยคบอกเล่า ตั้งไว้ล่วงหน้า อย่างมีเหตุมีผล โดยศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารต่าง ๆ สมมติฐานแต่ละข้อต้องมีตัวแปรที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 ตัวใน 2 ลักษณะคือ ลักษณะเปรียบเทียบและความสัมพันธ์
                สมมติฐานแบ่งออกเป็น
2 ชนิดคือ
                1.  สมมติฐานทางการวิจัย (Research hypothesis)
                                -  สมมติฐานแบบมีทิศทาง (Directional hypothesis) เช่น กลุ่มหนึ่งมากกว่า หรือน้อยกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง
                                -  สมมติฐานแบบไม่มีทิศทาง (Non-directionalo hypothesis) เช่น แตกต่างกัน หรือสัมพันธ์กัน
                2.  สมมติฐานทางสถิติ (Statistical hypothesis)
                                -  สมมติฐานที่เป็นกลาง (Hull hypothesis) (H0) ใช้ค่าพารามิเตอร์ที่บ่งบอกถึงความไม่แตกต่างกัน                                

                               -  สมมติฐานอื่น (Alternative hypothesis) (H1) ใช้ค่าพารามิเตอร์ที่บ่งบอกถึงความแตกต่างกัน                 ในจุดมุ่งหมายหนึ่งควรตั้งสมมติฐานเพียง 1 ข้อ จึงจะเหมาะสมที่สุด

 
 สรุป
                สมมติฐาน
(Hypothesis)  คือ คำตอบที่ผู้วิจัยคาดคะเนไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุมีผล เพื่อตอบความมุ่งหมายของงานวิจัยที่ได้วางไว้ เป็นข้อความที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ต้องเป็นประโยคบอกเล่า ตั้งไว้ล่วงหน้า อย่างมีเหตุมีผล โดยศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารต่าง ๆ สมมติฐานแต่ละข้อต้องมีตัวแปรที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 ตัวใน 2 ลักษณะคือ ลักษณะเปรียบเทียบและความสัมพันธ์
                สมมติฐานแบ่งออกเป็น
2 ชนิดคือ
                1.  สมมติฐานทางการวิจัย (Research hypothesis)
                2.  สมมติฐานทางสถิติ (Statistical hypothesis)




ที่มา
ภิรมย์  กมลรัตนกุล
:  http://cai.md.chula.ac.th/lesson/research/re12.htm   เข้าถึงเมื่อวันที่  4  มกราคม  2555.
http://www.nrru.ac.th/rdi/UserFiles/File/hypothesis.pdf    เข้าถึงเมื่อวันที่  4  มกราคม  2555.
http://www.watpon.com/Elearning/res5.htm    เข้าถึงเมื่อวันที่  4  มกราคม  2555.

                               



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น